เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คน ยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาของบ้านบางแค ว่าทำไมถึงได้กลายเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในตำนานของประเทศไทย ดังนั้นเราจะพาคุณย้อนเวลาไปหาคำตอบกัน!
เปิดประวัติ “บ้านบางแค” ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในตำนานของประเทศไทย
หากกล่าวคำว่า “บ้านบางแค” ขึ้นมา คนไทยทั้งประเทศคงจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี ว่านี่คือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุรุ่นบุกเบิกของประเทศไทยและในปัจจุบันนี้ก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่ แต่! ก็มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าประวัติของบ้านบางแคนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ? และทำไมถึงยังคงได้รับความนิยมและการตอบรับที่ดีอยู่เสมอมา ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณย้อนเวลาไปพบกับประวัติของบ้านบางแคกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามข้อมูลที่ทางทีมงานได้นำมาฝากพร้อมๆ กันเลย!
ประวัติความเป็นมาของบ้านบางแค
บ้านบางแค หรือชื่อเดิมว่า “สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค” ได้มีการก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2496 ในสมัยของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งการก่อตั้งสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแคขึ้นมานั้น ก็เพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้สูงอายุตามนโยบายสวัสดิการสังคมของทางภาครัฐ และยังถือว่าเป็นสถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค” หรือที่เราเรียกกันว่า “บ้านบางแค” ในปัจจุบันนี้นั่นเอง
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการเข้าพักอาศัย ณ บ้านบางแค
1.ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป (ทั้งเพศหญิงและเพศชาย)
2.ผู้ที่ประสบกับความเดือนร้อน อาทิเช่น ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองได้ ผู้สูงอายุที่ไม่มีที่อยู่อาศัย หรือผู้สูงอายุที่ไม่มีคนอุปการะเลี้ยงดู
3.ผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง ไม่มีความพิการทุพพลภาพหรือจิตฟั่นเฟือน
4.ผู้ที่มีความสมัครใจ
5.ผู้ที่ไม่มีคดีร้ายแรงติดตัวหรืออยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญา
เอกสารที่ต้องใช้ในการเข้าอยู่อาศัย ณ บ้านบางแค
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.ใบรับรองแพทย์ (หรือผลการตรวจเอกซเรย์ปอด)
4.ภาพถ่าย
รูปแบบที่พักของบ้านบางแค
1.ประเภทสามัญ
ที่อยู่อาศัยประเภทนี้จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น จะได้อยู่ห้องพักรวมกัน ซึ่งเงื่อนไขสำคัญเลยก็คือ ต้องเป็นบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นที่ต้องรีบให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่ไม่มีญาติคอยส่งเสียหรือเลี้ยงดู ผู้ที่มีฐานะยากจน เป็นต้น
2.ประเภทหอพัก (เสียค่าบริการ)
ที่อยู่อาศัยประเภทนี้จะมีการเสียค่าบริการ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.ห้องเดี่ยว ค่าบริการ 1,500 บาท/เดือน
2.ห้องคู่ ค่าบริการ 2,000 บาท/เดือน
และค่าน้ำประปา 100 บาท/เดือน ค่าไฟคิดตามจริง
3.ประเภทบังกะโล (แบบพิเศษ เสียค่าบริการ)
ที่อยู่อาศัยประเภทนี้จะเป็นบ้านเดี่ยว โดยผู้เข้าพักสามารถอยู่ได้จนถึงแก่กรรม โดยจะมีค่าแรกเข้าอยู่ที่ 300,000 บาท ค่าบริการรายเดือน กรณีพักคนเดียว 1,500 บาท/เดือน กรณีเข้าพัก 2 คน 2,000 บาท/เดือน ค่าน้ำ 100 บาท/เดือน ค่าไฟฟ้าคิดตามจริง
จากข้อมูลข้างต้นคงพอจะทำให้คุณได้รู้ประวัติความเป็นมาของบ้านบางแคเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเข้าไปอยู่อาศัย ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนเงินที่เรากล่าวไปนั้นก็มีมูลค่าที่สูงมากอยู่พอสมควร แต่ถ้าหากลองเปรียบเทียบดีๆ แล้ว คุณจะพบว่ามันคุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่คุณจะต้องเสียไปอย่างแน่นอน เนื่องจากคุณจะได้ทั้งสังคมใหม่ๆ มีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด มีกิจกรรมให้ทำอย่างไม่ขาดสาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่สำคัญลูกหลานก็ไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงในช่วงที่คุณต้องอยู่บ้านคนเดียว
ดังนั้นก่อนที่จะเกษียณอายุงานคุณก็อย่าลืมที่จะวางแผนในด้านการเงินให้เรียบร้อย อย่างเช่น การทำประกันชีวิตวัยเกษียณ ที่จะช่วยเข้ามาปลดล็อคในเรื่องการเงินให้กับคุณ หรือเรียกง่ายๆ ว่าคุณจะมีเงินก้อนหรือเงินประจำเดือน/ปี(ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละกรมธรรม์) ในตอนที่คุณได้เกษียณอายุการทำงานไปแล้ว โดยคุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดประกันชีวิตวัยเกษียณที่ Rabbit Care เว็บไซต์ที่จะช่วยทำให้คุณได้พบเจอกับประกันชีวิตดีๆ จากธนาคารชั้นนำของประเทศไทย!